Sponsor
เชื่อว่าหลายๆคนคงอยากมีผิวที่สวย สุขภาพดี จึงหาสารพัดอาหารเสริมและครีมบำรุงผิว มาใช้กันมากมาย แต่หลายคนคงลืมไปว่า อาหารที่เรากินเข้าไปก็มีส่วนช่วยทำให้ผิวเราสวยใส สุขภาพดีได้ด้วยเช่นกัน เหมือนกับประโยคที่บอกว่า You are what you eat ยังใช้ได้เสมอมา แล้วอาหารอะไรบ้างล่ะ? ที่ช่วยบำรุงผิวพรรณให้ช่วยเด้งไฉไล
- ฟักทอง
ฟักทองมีสีส้ม ซึ่งสารสีส้มในฟักทองได้มีแคโรทีนอยด์ ซึ่งมีส่วนช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระ ต่อต้านริ้วร้อยก่อนวัย ปกป้องเซลล์ผิวหนังไม่ให้ถูกทำลายอันเป็นสาเหตุที่เกิดรอยย่นหรือรอยตีนกานั่นเอง ฟักทองยังอุดมไปด้วยวิตามิน ซี อีและเอ ซึ่งเป็นสารแอนตี้ออกซิแดนซ์ มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างเส้นใยคอลาเจนในชั้นหนังแท้ได้เป็นอย่างดี
- ผลทับทิม
ทับทิมเป็นผลไม้ที่มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระสูงมาก มีผลการวิจัยออกมาว่าการดื่มน้ำทับทิมสามารถช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระมากกว่าการดื่มไวน์แดงและชาเขียวรวมกันซะอีก เห็นอย่างนี้แล้วต้องหันมาดื่มน้ำทับทิมกันบ้างแล้วล่ะ
- สตรอเบอร์รี่
เป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง ซึ่งวิตามินซีมีส่วนช่วยในการต่อต้านริ้วรอยบนผิวหนังได้เป็นอย่างดี และยังช่วยป้องกันการทำลายคอลาเจนในผิวหนังจากปัจจัยภายนอกต่างๆได้อีกด้วย นอกจากจะกินสตอรเบอร์รี่ทำให้ผิวสวยแล้วคุณยังสามารถนำสตรอเบอร์รี่ไปพอกหน้า เพื่อผิวหน้าที่เรียบเนียนและอ่อนกว่าวัยได้อีกด้วย
- ดื่มน้ำสมูทตี้ปั่น
สำหรับใครที่ไม่ชอบทานผักหรือไม้ การทำน้ำสมูทตี้ปั่นดื่มถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีที่จะทำให้คุณมีผิวสวยที่สำคัญยังทานง่ายและรสชาติอร่อยอีกด้วย เพียงแค่คุณน้ำผลไม้ เช่น สตอเบอร์รี่ บลุเบอร์รี่ กีวี และราสเบอร์รี่มาผสมกับโยเกิร์ตแล้วปั่นเข้าด้วยกัน จากนั้นคุณก็จะได้สมูทตี้รสชาติแสนอร่อยเพื่อที่จะทานเป็นของว่างแสนมีประโยชน์กับผิวของคุณ
- น้ำมันมะกอก
น้ำมันมะกอกนอกจากจะมีคุณสมัติต่อต้านอนุมุลอิสระและช่วยลดการอักเสบให้ผิวหนัง ชาวโรมันโบราณยังใช้น้ำมันมะกอกนวดผิวเพื่อให้ผิวชุ่มชื่น เรียบเนียน และยังทำให้ผิวกระจ่างใสอีกด้วย และสำหรับใครที่มีข้อศอก ข่า หรือตาตุ่มที่ด้านและดำคล้ำ คุณสามารถทาน้ำมันมะกอกและนวดลงไปประมาณ 5 – 10 นาทีแล้วล้างออก เพียงเท่านี้ ผิวที่ดำกร้านของคุณก็กลับมานุ่มและชุ่มชื้นขึ้นมาอีกครั้ง
- ชาเขียว
เป็นที่รู้ๆกันอยู่แล้วว่า ชาเขียวมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ การดื่มชาเขียวนอกจะทำให้ร่างกายผ่อนคลายแล้วยังสามารถลดริ้วรอยบนผิวหนังและลดอัตราเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งผิวหนังได้อีกด้วย