Sponsor
กลิ่นปาก…เรื่องร้ายๆ ที่หลายคนมองข้าม
ก่อนที่เราจะไปพูดถึงเรื่องฟันขาวสะอาดและรอยยิ้มชวนมอง ขอพูดถึงเรื่องอื่นที่สำคัญก่อนแล้วกันค่ะ
ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องที่ไม่น่าพูดถึงสักเท่าไหร่ แต่ก็อาจจะเป็นสิ่งที่สามารถดับอนาคตความรัก
ของเราหลายคนมานักต่อนักแล้ว ตัวการนี้คือ “เจ้ากลิ่นปาก” นั่นเอง เชื่อไหมคะว่า 95 เปอร์เซ็นต์
ของคนรอบกายคุณ ไม่กล้าบอกหรือท้วงติงว่าคุณมีกลิ่นปาก เพราะฉะนั้น คุณควรกันไว้ดีกว่าแก้
คือต้องระวังไว้อยู่เสมอค่ะ !
กลิ่นปากไม่ใช่ปัญหาเล็กๆ สิวๆ อย่างที่คิด เพราะทุกครั้งที่คุณพูด ลมหายใจที่มีกลิ่นไม่พึงประสงค์
อาจจะสร้างความไม่ประทับใจจนถึงขั้นรังเกียจจากคนรอบข้างได้ แม้ว่าคุณจะหล่อเหลา มาดแมน
แต่งตัวดีขนาดไหนก็ตาม จะเสียบุคลิกเต็มๆ ก็ตอนนี้แหล่ะค่ะ คุณคงไม่อยากให้คนรอบข้างคุณ
มานินทาลับหลังหรอกนะคะว่า คนนี้ดีไปหมด แต่ “ปากเหม็น” และช่วยจำไว้ด้วยว่า
การเป่าปากลงบนฝ่ามือแล้วไม่เหม็น เท่ากับไม่มีกลิ่นปากนั้นไม่เป็นเรื่องจริง!
กลิ่นปากเกิดจากอะไรกันนะ ?
70 เปอร์เซ็นต์ของกลิ่นปากนั้นเกิดจากปัญหาภายในช่องปาก หรือ “ต้นตอกกลิ่นปากจากภายใน”
เช่น ร่องเหงือกอักเสบ ลิ้นเป็นฝ้า ฟันผุ ฟันคุด หรือวัสดุที่คุณใช้จัดฟัน เช่น เหล็กดัดฟันหรือฟันปลอมไม่สะอาด
มีเศษอาหารตกค้าง นอกจากนี้ กลิ่นปากอาจจะมาจากโรคบางอย่างของระบบทางเดินหายใจด้วย
เช่น การอักเสบในโพรงจมูก ไซนัส ทอนซิลอักเสบ อีก 30 เปอร์เซ็นต์คือต้นตอกลิ่นปากจากภายนอก
นั่นคือการรักความสะอาดช่องปากไม่เพียงพอ ซึ่งเราสามารถควบคุมตัวเองได้
⦁ แปรงฟันด้วยขนแปรงอ่อนนุ่มแบบพิเศษอย่างถูกวิธี ให้ทั้งถี่ถ้วนและทั่วถึง
ใช้เวลาแปรงฟันให้นานเป็นพิเศษ ( ประมาณ 3 นาที ) หรืออาจจะใช้น้ำยาบ้วนปากหลังแปรงฟันด้วยก็ได้
แต่ควรเลือกแบบที่ไม่มีแอลกฮอลล์ผสมนะคะ
⦁ หมั่นใช้ไหมขัดฟันเป็นบางโอกาส อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง จะช่วยได้อีกเยอะค่ะ
⦁ ลดอาหารที่มีกลิ่นแรง อย่างพวก ต้นหอม กระเทียม หอมแดง หอมหัวใหญ่
เพราะว่าอาหารเหล่านี้จะมีสารระเหยบางชนิดที่สามารถดูดซึมเข้ากระแสเลือดได้
และจะมีกลิ่นซึมออกมาพร้อมกับลมหายใจ แต่ถ้าหากว่าไม่ได้ออกไปไหนก็สามารถทานได้ค่ะ
⦁ ลดหรือเลิกสูบบุหรี่ จะดีต่อสุขภาพและกลิ่นปากมากๆ เลยค่ะ
และที่สำคัญ อย่าลืมบ้วนปากหลังทานอาหารหลายๆ ครั้งและทุกครั้ง
ช่วยได้เยอะเชียวล่ะค่ะ หากไม่กลัวเสียลุคเป็นเด็กอนามัย ก็จัดการแปรงฟันเบาๆ หลังทานอาหารด้วยก็ดีค่ะ